ศาสตราจารย์โรเบิร์ต เจ ฮาวิกเฮิร์ส
(Robert havighurst 1953-1972) ได้ให้ชื่อว่างานที่มนุษย์ทุกคนจะต้องทำตามวัยว่า “ งานพัฒนาการ ” หมายถึง งานที่ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิตสัมฤทธิ์ผลของงานพัฒนาการของงานแต่ละวัยมีความสำคัญมากเพราะเป็นของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป
ในการสร้างทฤษฎีงานพัฒนาการฮาวิกเฮิร์ส ถือว่าการพัฒนาการของมนุษย์ไม่ได้ขึ้นกับปัจจัยทางสรีระหรือชีวะแต่เพียงอย่างเดียว สังคมและวัฒนธรรม
และปัจจัยทางจิตวิทยาของแต่ละบุคคลมีอิทธิพลในการพัฒนาการของบุคคลด้วย ดังนั้นฮาวิกเฮิร์ส ได้สรุปว่าตัวแปรที่สำคัญในการพัฒนามี 3 อย่าง
1. วุฒิภาวะทางร่างกาย
2. ความมุ่งหวังของสังคมและกลุ่มที่แต่ละบุคคลเป็นสมาชิกอยู่
3. ค่านิยม
แรงจูงใจ
ความมุ่งหวังส่วนตัวและความทะเยอทะยานของแต่ละบุคคล
3.1
ความพร้อมเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ (Natural Readiness
Approach)
กลุ่มนี้นี้ความเห็นว่า
ความพร้อมของบุคคลเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อถึงวัยหรือเมื่อถึงระยะเวลาที่เหมาะสมที่จะทำกิจกรรมอย่างหนึ่งอย่างใดได้ดังนั้นในกลุ่มนี้จึงเห็นว่าการทำอะไรก็ตามไม่ควรจะเป็น
“การเร่ง”
เพราะการเร่งจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
ตรงกันข้ามอาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมาคือ ความท้อถอย และความเบื่อหน่าย เป็นต้น
3.2
ความพร้อมเกิดจากการกระตุ้น (Guided Experience
Approach)
กลุ่มนี้มีความเห็นตรงข้ามกับกลุ่มแรก คือ เห็นว่า
ความพร้อมนั้นสามารถเร่งให้เกิดขึ้นได้ โดยการกระตุ้น การแนะนำ
การจัดประสบการณ์อันจะก่อให้เกิดเป็นความพร้อมได้โดยตรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยเด็ก ซึ่งจะเป็นวัยที่มีช่วงวิกฤติ (Critical Period)ของการเรียนรู้และการปรับตัวเป็นอย่างมาก
4. สิ่งแวดล้อม ได้แก่
สิ่งที่อยู่รอบตัวบุคคลนั้นๆ ทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิต นอกจากนั้นสิ่งแวดล้อมยังหมายรวมถึงระบบและโครงสร้างต่างๆ
ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เช่น ระบบครอบครัว ระบบสังคม ระบบวัฒนธรรม เป็นต้น
การแบ่งพัฒนาการของมนุษย์
พัฒนาการของมนุษย์ แบ่งออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ คือ
1. พัฒนาการทางกาย
เป็นการแบ่งพัฒนาการของมนุษย์ตามขั้นตอนในแต่ละวัน
2. พัฒนาการทางด้านความคิดหรือสติปัญญา (Cognitive
Development) ของเพียเจท์
3. พัฒนาการทางด้านจิตใจ ซึ่งแบ่งย่อยเป็น
3.1
พัฒนาการทางด้านจิตใจ-เพศ (Psychosexual Development)
ของฟรอยด์
(Freud)
3.2 พัฒนาการทางด้านจิตใจ-สังคม
(Psychosocial Development) ของอีริคสัน (Erikson)
4. พัฒนาการด้านจริยธรรม (Moral Development) ของโคลเบริ์ก (Kohlberg)
พัฒนาการตามวัย
ตามแนวความคิดของฮาวิคเฮอร์ท (Hovighurst) ได้แบ่งพัฒนาการของมนุษย์ออกเป็นวัยต่างๆได้ดังนี้
1. วัยเด็กเล็ก-วัยเด็กตอนต้น (แรกเกิด- 6 ปี) ในวัยนี้จะมีงานที่สำคัญ ดังนี้
- การเรียนรู้ทางด้านร่างกาย เช่น
การยกศีรษะ คลาน การทรงตัว การเดิน
- การเรียนรู้ทางด้านการรับประทานอาหาร
- การเรียนรู้ทางด้านการเปล่งเสียง
การพูด
- การเรียนรู้ในเรื่องการควบคุมการขับถ่าย
- เริ่มมีความคิดรวบยอดง่ายๆ
เกี่ยวกับความจริงทางสังคม และทางกายภาพ
- เริ่มรู้จักแยกความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ผิด-ถูก
และเริ่มพัฒนาทางจริยธรรม
2. วัยเด็กตอนกลาง (6-18 ปี) ในวัยนี้จะมีงานที่สำคัญ ดังนี้
- พัฒนาทักษะทางด้านกายภาพ
- เรียนรู้ที่จะแสดงบทบาทให้เหมาะสมกับเพศของตนเอง
- พัฒนาในเรื่องการปรับตัวเข้ากับเพื่อนรุ่นเดียวกัน
- พัฒนาเกี่ยวกับเรื่องศีลธรรม ค่านิยม
เพื่อเตรียมพร้อมที่จะอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
3. วัยรุ่น (12-18 ปี) พัฒนาการที่สำคัญของบุคคลในวัยนี้ คือ
- พัฒนาความคิดรวบยอดและทักษะในการแก้ปัญหา
- สามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีและเหมาะสมกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ทั้งเพศเดียวกันและต่างเพศได้
- พยายามปรับตัวเองให้เข้ากับการเปลี่ยนทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์
4. วัยผู้ใหญ่ตอนต้น (18-35 ปี)
ในวัยนี้จะมีลักษณะที่สำคัญ ดังนี้
- เริ่มต้นประกอบอาชีพ
- เริ่มสร้างครอบครัวของตนเอง
- เรียนรู้ที่จะมีชีวิตร่วมกับคู่แต่งงาน
5. วัยกลางคน (35-60 ปี) งานที่สำคัญในวัยนี้ คือ
- มีความรับผิดชอบต่อสังคม
- มีความพยายามในการสร้างฐานะทางเศรษฐกิจ
เพื่อความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว
- รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น
- สามารถปรับตัวและทำความเข้าใจคู่ชีวิตของตนเองให้ได้
6. วัยชรา (อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป) งานที่สำคัญในวัยนี้ คือ
- สามารถปรับตัวกับสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยลง
- สามารถปรับตัวได้กับการเกษียณอายุการทำงาน
- สามารถปรับตัวได้กับการตายจากของคู่ครอง
หลักพัฒนาการแนวคิด
– สามารถที่จะแสดงบทบาททางสังคมได้เหมาะสมกับเพศของตน
– เลือกและเตรียมตัวที่จะเลือกอาชีพในอนาคต
– พัฒนาทักษะทางเชาว์ปัญญาและความคิดรวบยอดต่างๆที่จำเป็นสำหรับสมาชิกของชุมชนที่มีสมรรถภาพ
– มีความต้องการที่จะแสดงพฤติกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
การนำไปประยุกต์ใช้
สามารถสังเกตพัฒนาการต่างๆของเพื่อนๆและคนรอบข้าง
เพื่อให้รู้จักนิสัยใจคอมากขึ้น และใช้เทคโนโลยี สารสนเทศที่เกี่ยวทางการศึกษาและการสืบค้นหรืออื่นๆได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น